จริงๆ แล้ว “เศรษฐินีศรีราชา” มีอีกฉายาหนึ่งที่ได้รับจากคนรอบข้าง คือ “เจ้าหญิงแห่งวงการหวย” เพราะทุกวันที่ 1 กับ 16 จะรักการเสี่ยงโชคเป็นชีวิตจิตใจ ความฝันสูงสุดในชีวิต คือ การนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปที่สนามบินน้ำ เพื่อขอขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาทก็ดี 12 ล้านก็ได้….แต่ความฝันนี้ผ่านมา 36 ปี มันไม่เคยเป็นจริง ไม่เคยเลย
แม้จะเคยถูกรางวัล 2 ตัว 3 ตัว และรางวัลใหญ่ที่สุดในชีวิต คือ ถูกรางวัลที่ 5 ได้เงินมา 20,000 บาท แต่พอมาคำนวณแล้ว อยากจะร้องไห้ เพราะขาดทุนมาโดยตลอด แม้เงินที่ได้มาดูเหมือนจะเยอะ เอาเข้าจริงแล้วไม่เลย อยากจะฉายภาพให้เห็นง่ายๆ เช่นปี 63 ที่ผ่านมา ทุกวันที่ 1 และ 16 เศรษฐินีศรีราชา จะลงทุนซื้อลอตเตอรี่ประมาณ 1,000-2,000 บาท ตีเลขเป็นกลมๆ ก็ 24,000 บาทไปแล้ว แต่ได้เงินรางวัลมาคือ 2,000-4,000 บาทเท่านั้น แทบไม่ต้องเดา เพราะถูกแค่เลขท้าย 2 ตัว ขาดทุนเห็นๆ
ปี 64 จึงเป็นที่มาของการปฏิรูปตัวเอง เมื่อหวยมันเสี่ยง ก็เปลี่ยนความเสี่ยงนั้นให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำเงินที่เคยซื้อลอตเตอรี่ไปลงทุน แต่ถ้าถามว่า เลิกขาดเลยไหม ก็ตอบตรงนี้ หักดิบคงลงแดง ฉะนั้นซื้อแค่งวดละ 2 ใบ ง่ายๆ ไม่เกินงวดละ 200 บาท เอาแค่เสี่ยงโชคลุ้นรวย ช่วยราษฎรเสริมรัฐ อุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าหวยบ้าง ให้กองสลากนำเงินเข้ารัฐบาล หรือเอาไปบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์อะไรก็ว่ากันไป
จากที่เคยซื้อหวยงวดละ 2,000 บาท เหลืองวดละไม่เกิน 200 บาท เงินที่เหลืออีก 1,800 บาท จึงเป็นที่มาของการต่อยอดความเสี่ยง ออกตัวไว้ก่อนว่า เศรษฐินีศรีราชา พอมีความรู้เรื่องการลงทุนอยู่บ้าง จึงเลือกนำเงินที่เหลือไปลงทุนในกองทุนรวม ข้อดีคือ มีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารเงินให้เรา ที่สำคัญขั้นต่ำในการลงทุน หรือที่เรียกว่า การซื้อในแต่ละครั้งเริ่มต้นแค่ 500 บาทเท่านั้น
หลังจากศึกษามาพอสมควร จึงเลือกกองทุนที่ชอบ โดยโจทย์การลงทุนนี้ คือ “รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง” เพราะหลายปีที่ซื้อหวย ก็เสี่ยงมากพอสมควร อย่าถามหากำไร เพราะทุนที่ซื้อไปไม่เคยได้คืน และด้วยความที่ชื่นชอบผู้ชายที่รวยที่สุดในโลกอย่าง “อีลอน มัสก์” แม้จะไม่มีเงินซื้อ Tesla ก็ขอเกาะๆ ไปลงทุนในธุรกิจเขาก็ยังดี (ชอบ อีลอน มัสก์ แต่เงินไม่พอซื้อรถเทสล่า เลยขอสานฝันซื้อหุ้น Tesla แทน) เลยเป็นที่มาของการเปลี่ยนเงินหวยมาลงทุนในกองทุนเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน ชนิดเพื่อการออม หรือ K-CHANGE-SSF
ส่วนที่เลือกกองทุน SSF นั้นเพราะหลักๆ แล้วต้องการบังคับตัวเองให้ลงทุนยาวๆ 10 ปีขึ้นไป ที่สำคัญเอาไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30% อีกด้วย นอกจากนี้กองทุน SSF ยังสามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้ด้วย เช่น ลงทุนไปประมาณ 3 ปี เห็นเทรนด์หุ้นไทย หรือตราสารหนี้กำลังมาก็สับเปลี่ยน และจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และผลตอบแทนที่คาดหวังได้นั่นเอง
หลังจากเปิดพอร์ต “รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง” ซึ่งเป็นพอร์ตเอาไว้สนองความต้องการ ถ้ารู้สึกอยากซื้อหวย ก็จะรีบกดเข้าไปซื้อกองทุนทันที แม้จะลงทุนได้ไม่นานเพราะเพิ่งทดลองตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 นอกเหนือจากสุขภาพร่างกายจะต้องแข็งแรง สุขภาพการเงินก็ต้องแข็งแรงด้วยเช่นกัน
ผ่านพ้นไปไม่นาน กลับเข้ามาดูในพอร์ต เงินที่ลงทุนไป 2,000 บาท ในวันที่ 29 ธ.ค. 63 ก็เริ่มงอกเงย เรียกได้ว่าเห็นแล้วมีกำลังใจให้พอเลิกซื้อหวยได้บ้าง แม้งวดวันที่ 17 ม.ค. 64 จะช่วยแม่ค้าหวยซื้อลอตเตอรี่มา 2 ใบ แต่ก็ไม่ลืมกดซื้อกองทุนเพิ่มในทันที หากเข้าใกล้คำว่าสำเร็จเมื่อไร จะกลับมารีวิววิธีการเปลี่ยนเงินหวยมาลงทุนให้เห็นชัดๆ อีกครั้ง
แต่อย่าลืม ทุกการลงทุนไม่ว่าจะหวย หุ้น กองทุน น้ำมัน ทองคำ หรือตราสารหนี้ ล้วนแต่มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ก่อนที่จะลงทุนควรทำความเข้าใจข้อดี ข้อเสีย และลักษณะการลงทุนนั้นให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน.
